リアリティのない作文



สวัสดีค่า

วันนี้ก็จะมาเขียนบล็อกรีวิว  リアリティのない作文 ของเรานะคะ แหะ

ก็ ๆ งานนี้ก็ไม่ถึงกับว่าเป็น タスク แต่เป็นเหมือนกับอินโทรก่อนเริ่มเขียน 空想作文 ค่ะ

โดยโจทย์ในครั้งนี้ก็มี ประโยคมาให้ เป็นประโยคที่บรรยายเฉย ๆ ไม่มีอะไร อ่านแล้วให้ความรู้สึก หรอๆ อื้มๆ นะคะ

ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำก็คื้อออออ

ทำยังไงก็ได้ให้มันสนุก !

เอาจริงๆ เราชอบกิจกรรมแบบนี้นะคะ แต่แบบ เอ้อะ เป็นเรื่องผี แงงงงง
จริงๆแล้วไม่ชอบเรื่องผีๆเลยค่ะ แล้วก็ไม่ค่อยได้อ่านหรือดูอะไรที่เกี่ยวข้องกับผีด้วยเลยไม่รู้ว่าตัวเองพอจะบรรยายโอเคไหมนะ แหะๆ

แต่ก็ได้พยายามอย่างเต็มที่แล้วค่า
ยังไงก็มาดูดราฟต์แรกของงานชิ้นนี้กันค่ะ




【リアリティのない作文】


あの日は普通の日だった。

 朝起きてから学校へ行って、いつもと同じ終わるまで先生のつまらない話が続いた普通の日だった…と思ったが、毎日と違って、変なことがあった。

 普段は7時まで部活活動して、どこにも寄らずまっすぐ家に帰るんだけど、その日、部活は9時近終わったから、夜遅くに帰った。

 もう遅くなったから、周りに誰もいなく、とても静かだった。道を歩いていたら、向こうに立っている女の人が見えた。彼女は髪が黒く長くて、白い服を着ていた。
すると、いつか知らず、彼女が僕に近づいて、僕の手首を掴んだ。近くで見ると、彼女の顔には口しかない。彼女は口裂けていて、僕を見て笑い、「おーいーしーそー」ひんやりとした声で言った。

とてもびっくりして怖くなって、必死に僕の手首を掴んでいる手を振り切って、やっと外れたら、すぐ走り出した。しかし、彼女は追いかけてきた。走って逃げている途中に、右手にも左手にも全く同じ姿のほかのお化けが見つかって、それに、増えていた。最悪なのは、みんな僕を追いかけてきたのだ。

走り止まらなくて、死ぬほど疲れていた。ただ、まだ追いかけられていたから、走り止められなかった。そのとき、電気がついている家を見つけた。どこに逃げたらいいがわからない僕はあの家に入ることにした。

入ったら、30代ぐらいのやさしそうな美人がみつかった。彼女は、僕の肩で息をしつかれているような姿を見て、「どうしたんですか?」とびっくりして心配しているというような姿で僕に聞いた。そう聞かれた僕はさっき体験したことを彼女に全部話した。彼女は聞きながら、うなずいて、「君はきっととても怖かったんでしょうね」とやさしい声で言って、慰めるために僕の腕をなでくれた

でも、彼女急に僕の腕を強くつかんで、「でも、君はこんなにおいしそうだから、それはしょうがないよね」と言った。次に起きたのは、彼女がさっき会ったお化けのような姿に変化したのだ。僕の腕をつかんでいる手の爪が長く、鋭くなって、僕の肌に傷をつけてしまった。痛みは感じるけど、怖さの方が勝り、その痛みを無視して逃げることにした。
野原まで逃げたら、友達のA君がいた。その時に生き残りたいと他に何も考えず、A君に「助けてくれ」何度も何度も言った。

A君は、僕を見通して、追いかけられているお化けたちを見たら、「えいっ。」と声を出した。A君はどうやってそのお化けたちと戦ったのかあまり覚えられないけど、覚えているのは、A君がお化けを遣っ付けてくれたことだけだ。

ただ、次に何が起きたのか、僕は何も覚えていなかった。

なんか、記憶が消されたみたいだ。

意識が戻ったら、僕はベッドの上で起きていた。着ているのは制服でなくて、パジャマを着ていた。「たぶんただの悪夢か」と考えながら、自分の腕をなでたが、痛みが感じた。
腕に視線を移したら、お化けにつけられた傷と全く同じ傷があった。


ก็จะประมาณนี้ค่ะ เย้
อันนี้เป็นเวอร์ชั่นที่แก้ไม่สมบูรณ์ค่ะ ตัวอักษรสีเขียวคือแก้แล้ว ส่วนตัวหนาสีแดงที่ทำไว้เป็นส่วนที่ต้องแก้และอยากเน้น ซึ่งเราจะเขียนให้ดูในสวนต่อไปค่ะ อ่านแล้วเป็นอย่างไรบ้างคะ แหะๆ

คือจริงๆแล้วรู้สึกว่าพล็อตนี้คือ cliche อยู่เหมือนกันค่ะ แต่แบบว่าคิดไม่ออกแย้ว ;ㅈ;
นี่ก็เต็มที่แล้วนะ !

ในคลาสอาจารย์ก็ให้ทุกคนได้อ่านของเพื่อน ๆ คนอื่นและให้โหวตอันที่ชอบ 3 อันดับ
จริงๆ เราก็ไม่ได้คาดหวังขนาดนั้น แต่มีคนโหวตให้ด้วย!

Arigathanks!

พร้อมกับคอมเม้นประมาณหนึ่ง



"เขียนสั้นแต่ได้ใจความ อ่านง่าย เข้าใจง่าย อ่านแล้วรู้สึกไม่อืดยืดเยื้อ พล็อตก็ดี สนุก"

"เป็นเรื่องที่อ่านแล้วเห็นภาพที่สุด คืออ่านแล้วมีภาพในหัวเลย และมีความเป็น ホラー ชัดเจน พอมีคำพูดทำให้ดูเห็นภาพมากขึ้น น่ากลัวขึ้น"

"มีการใช้แนวคิดเรื่องระดับความจริง เช่น เรื่องความฝันในตอนท้ายเรื่อง"


แง ก็ขอบคุณทุกความเห็นมากค่ะ จะนำไปปรับปรุงในงานต่อ ๆ ไปมากขึ้นนะงับ <3


ก่อนจะเข้าสู่ช่วงแก้
ชอบของเพื่อนอยู่สองคนมากเลยค่ะ
ระบุชื่อเลยละกัน ก็คือ ของคุณโอ๊ต และคุณอั้น แหะ ๆ
เวลาอ่านแล้วสนุกจริง ๆ รู้สึกเหมือนเสียงออกมา
อีกอย่างชอบคือ ตรงที่ไม่ได้ทำให้มันน่ากลัวอ่ะ รู้สึกว่าแหวกดี
เหมือนเรืองผีไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องสยองขวัญอะไรประมาณนี้
ก็รู้สึกได้ตระหนักว่า 
เออ เรื่องที่ผีไม่ต้องน่ากลัวก็ได้นี่นา อย่าจำกัดให้ผีอยู่แค่ใน genre Horror/Thriller สิ!!!!!!




1.同じ ---->  同じように

2.9時近い ---->  9時近く

3.見つかった ---->  いた・見た
> อันนี้อาจารย์บอกว่าถ้าใช้ 見つかる มันมีความหมายของ "เจอ" แบบที่ต้องมีการค้นหาก่อน แต่ในบริบทนี้เป็นการเจอแบบ เปิดประตูปุ๊บก็เห็น ก็เจอ เลยใช้เป็น いる・見る จะดีกว่า

4.でも ---->  ところが
> อันนี้อาจารย์บอกว่า でも มันเบาไปหน่อย ไม่รู้สึกรุนแรงสักเท่าไร เปลี่ยนคำดีกว่า

5.手の爪が長く、鋭くなって、---->  長く鋭くなった手の爪で
>  อันนี้เราติดใจมากๆ คือตอนเขียน ก็เขียนไปตามที่คิด เขียนไปตามลำดับที่สมองเรียงไว้ให้เลยค่ะ ก็เลยออกมาแบบนี้เลย แต่อาจารย์ก็แก้ให้มา โดยเปลี่ยนกริยาก่อนหน้านี้มาเป็นส่วนขยายคำนามแทน จะดูเป็นสำนวนแบบนิยายมากกว่า ซึ่งก็ว้าว พอดูแล้วก็ เออ จริงด้วย รู้สึกว่าแม้แต่ในเพลงก็เจอแบบนี้เยอะเหมือนกัน ไว้คราวหน้าจะลองฝึกมากกว่านี้ค่ะ

6.覚えられない ---->  覚えていない
> อันนี้ก็เป็นการเขียนเพื่อย้ำเตือนสติตัวเอง ! ว่าจำไม่ได้ในภาษาญี่ปุ่นมีสองแบบ  覚えられない จำไม่ได้แบบ เยอะเกินไปไม่สามารถจำได้ทั้งหมด และ 覚えていない แปลว่าจำไม่ได้แบบลืม ข้อมูลในหัวหาย จริงๆก็เป็นสิ่งที่รู้อยู่แล้ว แต่ตอนเขียนพอแปลเป็นภาษาไทยว่าจำไม่ได้ ในหัวก็ผันเป็นรูปสามารถตลอดเลยค่ะ ต้องจำ !




บล็อกในครั้งนี้ก็จบลงเท่านี้แล้วค่ะ
สิ่งที่ได้ทบทวนตัวเองจากงานในครั้งนี้ก็คงเป็นเรื่องว่า อย่าทำงานสะเพร่า!
จริงๆมีหลายตรงที่ตอนทำก็ทวนแล้ว แต่ก็ยังผิดโดยที่ก็รู้ว่ามันผิด แง จะปรับปรุงตัวนะคะ
แล้วก็จริงๆงานในครั้งนี้ก็สนุกมากๆเลยค่ะ จริงๆก็ไม่เคยเขียนนิยายหรืออะไรแนวผีๆมาก่อน
มาลองเขียนแบบนี้ก็รู้สึกchallengeเหมือนกันค่ะ
แต่ก็รู้สึกเสียดายอยู่ว่า ด้วยความสามารถในตอนนี้ยังไม่สามารถสื่อภาพที่คิดออกมาได้ทั้งหมด
ไว้ถ้าเก่งกว่านี้ ก็จะเขียนงานที่ดีกว่านี้ออกมาให้ได้เลยค่ะ

ส่วนตอนนี้ต้องขอฝึกฝนต่อไป!
ครั้งนีก็ขอจบด้วยการส่งรูปตัวแทนตัวเองนะคะ แหะๆ




ความคิดเห็น

  1. พี่ชอบจบแบบเรานะ สยองไปอีกแบบดี 555

    ถ้านึกคำศัพท์เวลาเขียนงานนี้ไม่ออก ลองไปหานิยายมาอ่านดู พี่ว่าน่าจะช่วยเรื่องให้หนูมีคลังคำศัพท์มาใช้เขียนได้มากขึ้นนะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. โอ้ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นนะคะพี่มายด์
      ที่จริงก็กะว่าหลังปิดเทอมจะลองอ่านนิยายภาษาญี่ปุ่นบ้างเหมือนกัน
      ตอนนี้ยังอ่านไปแค่เจ้าชายน้อยเล่มเดียว แง้!
      มีเล่มแนะนำไหมค่ะ

      ลบ
    2. แนะนำงานของอาจารย์有川浩 สำนวนอ่านง่าย ไกจินอย่างเรา ๆ ก็อ่านได้ ส่วนมากจะเป็นเรื่องความรักไรงี้ แต่อย่าเผลอไปซื้อ図書館戦争นะ ศัพท์แสงเยอะมาก พี่ก็อ่านไม่ไหว 555(ของอาจารย์คนนี้พี่มีเรื่องレインツリーの国กับ旅猫のリポート ถ้าสนใจ ยินดีให้ยืมเน้อ//เรื่องหลังคืออาจารย์เขียนดีมาก พี่ร้องไห้ไปหลายรอบตอนอ่าน)

      ลบ
    3. โอ้ ได้เลย ไว้จะไปซื้อมาอ่านเลย เชื่อใจพี่มายด์ 6 w 6 !!! 555555 ขอบคุณที่แนะนำค่า
      จริง ๆ ที่บ้านมี 旅猫のリポート แต่เป็นเวอร์ภาษาไทย ยังไม่ได้อ่านเลย ไว้ต้องลองอ่านเสียแล้ว !

      ลบ
  2. ครูว่าเขียนดีขึ้นเรื่อยๆนะคะ

    ตอบลบ
  3. ชอบตอนจบของอาร์ตนะ แบบดูเป็นความฝันกึ่งความจริง 555

    ตอบลบ
  4. เราชอบที่คุณอาตเขียนนะ ส่วนตัวคิดว่าตุณอาตเป็นคนที่เขียนเรียงความเก่ง แกรมม่าเป้ะ เซนส์ด้านนี้ดีเลยอ่ะ

    ตอบลบ
  5. เป็นอีกข้อดีของวิชานี้จริงๆเนอะ ได้ลองเขียนอย่างอื่นนอกจากพวกที่ต้องเจอใน JP WRIT เนี่ย

    「僕の腕をつかんでいる手の爪が長く、鋭くなって、僕の肌に傷をつけてしまった。」เราชอบประโยคนี้มากเลยย อ่านตามแล้วมันแบบ อย่าเอามือแบบนี้มาจับตัวฉันนะ!って感じ
    แอบติดใจว่าทำไมหลายๆคนชอบใช้ชื่อแค่ A さん Bさん ในงานเขียนอ่ะ ตั้งแต่ ぐんぐん แล้วด้วย
    เรารู้สึกว่าถ้าใส่ชื่อไปเลย (แม้จะแค่ やまだ) มันน่าจะเรียลขึ้นและเป็นที่น่าจดจำมากขึ้นนะ แล้วก็ทำให้เราผูกพันกับงานเขียนของตัวเองอ่ะ แบบตั้งชื่อให้ตัวละครจริงๆ ไรงี้

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น