【ส่งท้าย】


ว้าว แล้วก็มาถึงการเขียนบล็อกครั้งสุดท้าย
ส่งท้ายรายวิชา APP JP LIN แล้ว

เก่งมาก! (笑う)

(น้ำตาไหล)

ในระยะเวลาประมาณ 3-4 เดือนที่ได้เรียนวิชานี้ก็ทำให้เราคิดว่า "คิดถูกแล้วแหละที่ลงเรียนวิชานี้"
ก่อนลงเรียนก็มีความลังเลค่อนข้างสูง เพราะว่ามีแต่คนบอกว่างานเยอะเนอะ แล้วคนขี้เกียจอย่างเราจะไหวหรออออ แต่ก็ไหวอยู่ ก็โออยู่นะ !

จริงๆช่วงปีสามเทอมหนึ่ง เรารู้สึก lost กับภาษาญี่ปุ่นมากเลยค่ะ
ในใจคือสลับกันระหว่าง ไม่อยากเรียนญี่ปุ่นแล้ว อยากนอน อยู่ตลอด แฮะๆ
คือค่อนข้างหมดกำลังใจ ว่าเราไม่เก่งขึ้นสักที ทำยังไงก็ไม่เห็นว่าตัวเองจะเก่งขึ้น

จนได้มาเรียนวิชานี้ก็เปลี่ยนไป
ไม่ใช่ว่าตัวเองเก่งขึ้นมากนะ แต่รู้สึกว่าตนเองพัฒนามากขึ้นค่ะ
คือ เรารู้สึกว่าเราก็ยังไปต่อได้อยู่นะ แค่ตอนนี้ถ้าเปรียบเป็นกราฟเส้น เราก็คงอยู่ในช่วงโค้ง U-curved แหละ มันยังไปต่อได้อีก !!

ถ้าถามว่าตัวเองตอนนี้เก่งขึ้นจากจุดเดิมก่อนเริ่มเรียนมากแค่ไหน
ถ้าให้เราประเมินตัวเอง เราก็คิดว่าเราเราก็เก่งขึ้นนะ แม้อาจจะไม่ได้มากแต่เราก็พัฒนานะ
ไม่ใช่แค่เรื่องทักษะภาษา แต่การเรียนวิชานี้ก็ทำให้เราตระหนักถึง empathy มากขึ้น
ซึ่งมีความสำคัญมากเวลาที่เราจะส่งสาส์นออกไปให้ผู้รับ


---------------



ในคลาสนี้การได้ทำ タスク คือสิ่งที่เราคิดว่าสำคัญที่สุดเลยค่ะ
ในคลาสนี้เราทำทั้งหมด 5 タスク (แต่เราขาดคาบ いい聞き手になる ไปเลยไม่ได้มาพูดถึงสักเท่าไร ㅠㅠ)

แต่ถามว่า タスク ที่ทำให้อะไรกับเรา ก็คงเป็นความคิดที่ตระหนักในความไม่เก่งของตัวเอง
หากอิงคำพูดของโสเครตีส ก็คง "เรารู้ว่าเราไม่รู้อะไรเลย"
เราคิดว่าการที่เราได้ตระหนักว่าเราไม่รู้ มันจะช่วยกระตุ้นให้เราหาทางที่จะทำยังไงให้ตัวเองกลายเปน "รู้แล้ว" นะคะ ซึ่งในคลาสนี้การทำ タスク ก็ได้ทำให้เราได้รู้จักคำศัพท์ รูปประโยคต่างๆที่ไม่เคยได้รู้มากมาย รวมถึงการรับฟีดแบ็กหลังจากการทำงานก็ช่วยทำให้เราได้แก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเองได้ดีด้วย



---------------



นอกจากนี้ในคลาสก็ได้เรียน ทฤษฎีต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการสอนภาษาที่สอง
จริง ๆ ค่อนข้างเสียดายว่าเรารู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยมีโอกาสได้นำไปใช้เลย เพราะไม่ได้สอนพิเศษแล้ว
แต่คิดว่าในอนาคตก็อยากลองไปปรับใช้ให้มากขึ้น



---------------



ในส่วนของ 言語現象 อันนี้ก็เป็นส่วนที่เราชอบนะคะ
คือเหมือนช่วยย้ำอีกทีว่าเรานั้น 
ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย ในความคุ้นเคยกันอยู่ มันแฝงอะไรบางอย่างที่มากกว่านั้น (ร้องเพลง)
ส่วนใหญ่ เราก็มักจะได้เรียนเรื่องที่เราเหมือนจะรู้อยู่แล้ว เช่นการใช้ だ・のだ
แต่ก็ได้มาคุย มาถกถึงการใช้ ซึ่งก็นำไปสู่ข้อมูลที่เราอาจจะไม่เคยรู้!
ก็สนุกมากค่ะ ต้องขอบคุณที่เพื่อน ๆ พี่ๆ ในห้องแอคทีฟในการเรียนมาก
เราเลยได้ความรู้ไปด้วย แหะๆ



---------------



นอกจากนี้ ไม่พูดถึงคงไม่ได้
"เพื่อน และ พี่ๆ" ที่นั่งเรียนวิชานี้ด้วยกัน
เรารู้สึกว่าพวกคุณคือองค์ประกอบที่สำคัญของการเรียนคลาสนี้เลย
ยังจำภาพที่เขามานั่งเรียนกัน 4 คนเหงาๆวันแรกได้อยู่ รอบตัวมีรุ่นพี่สองคน และเพื่อนที่แสนเก่งอีกคนนึง ตอนนั้นในหัวแบบ ลดวิชาดีไหมเอ่ย 55555555 กดดันมาก เขินที่จะให้คนอื่นรู้ว่าไม่ฉลาดค่ะ
แงแงแง
แต่สุดท้ายก็ต้องบอกเลยว่า ขอบคุณ เพราะพวกคุณคอยช่วยเหลือเราตลอด
เป็นสภาพแวดล้อมการเรียนที่ดี และน่าสนใจมาก
เพื่อนๆที่นั่งอีกโต๊ะ แม้เราจะไม่ได้คุยกันในคลาสเยอะ เพราะนั่งคนละโต๊ะ
แต่เวลานอกคลาสก็ช่วยเหลือวิชานี้ให้เราเหมือนกัน



---------------

สรุปส่งท้ายนี้
ในคลาสนี้ เราได้เขียนบล็อกไปทั้งหมด 10 ครั้ง โดยมีทั้งบล็อกที่พูดถึงเกี่ยวกับ タスク และทฤษฎีต่างๆ ยังไม่แน่ใจว่าในอนาคตจะได้มาเขียนต่อมากแค่ไหน
แต่มั่นใจว่าจะมีวันที่กลับมานั่งอ่านบล็อกทั้งของตัวเอง และของเพื่อน ๆ แน่ๆค่ะ

ยังไงก็ขอบคุณบล็อกนี้ด้วย ที่จะเป็นเครื่องเตือนความจำให้เราว่าเราเคยทำผิดพลาดอะไรมา
และก็คงทำให้เราได้นั่งทบทวนทุกครั้งที่กลับมาอ่าน

แล้วก็ขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกคน ทั้งอาจารย์ (ที่น่ารักและคอยให้กำลังใจเสมอ) และเพื่อนๆพี่ๆทุกคนที่คอยช่วยเหลือนะคะ

(ไว้เดี๋ยวจะโผล่ไปเม้นบล็อกของทุกคนนะคะ เย้)




ความคิดเห็น

  1. ดีใจมากๆที่ได้ยินว่าหนูชอบภาษาญี่ปุ่นมากขึ้น ครูว่าภาษาญี่ปุ่นหนูพัฒนาขึ้นมากเลยค่ะ มีความละเอียดมากขึ้น และใส่ใจในรายละเอียดมากขึ้น(empathyประสบความสำเร็จ) ตอนนี้คงกำลังอยู่ขาขึ้น U-curved ชัวร์ค่ะ あと少しです!(สมกับชื่อ blog นี้) ที่ชอบที่สุดคือใช้รูป リラックマ ด้วย (ครูเพิ่งดูใน netflix น่ารักมากเนอะ) เข้ามาใน blog นี้แล้วอยากอ่านโน่นนี่ไปหมดเลยค่ะ ขอให้รักภาษาญี่ปุ่นมากขึ้น(ต่อไป)นะคะ

    ตอบลบ
  2. 안녕!

    สู้ ๆ นะคุณอาร์ท หมูดุดจะเป็นมนุษย์ยูเชปเป็นเพื่อนนะ 55555
    และแม้จะนั่งคนละโต๊ะกัน แต่ก็ขอบคุณที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้วิชานี้สนุกสนานครึกครื้นน้า

    จากนี้ไปก็มาพยายามเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยกันต่อไปนะฮะ

    一緒に頑張ろう!

    ตอบลบ
  3. พี่ก็ยังจำวันที่นั่งกันแค่4คนได้ เหงามากเถอะให้ตาย 55555 เท่าที่เรียนด้วยกัน ก็สัมผัสได้ว่าหนูมีพัฒนาการชัดเจนมากอ่ะ

    บาดแผลจากการเรียนตอนปี3อาจจะหนักนะ แต่พี่เชื่อว่าถ้าหนูยังชอบภาษาญี่ปุ่นอยู่ หนูก็ยังอยู่กับมันได้อ่ะ หลังจากนี้อาจจะไม่มีโอกาสได้เจอหนูเท่าไหร่ แต่ถ้ามีอะไรก็ติดต่อมาได้เลยนะ ยินดีเน้อ

    ขอให้โชคดีและมีความสุขกับการไปแลกเปลี่ยนที่ฮันไดนะ :)

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น